3.1.55

การทำธุรกิจ ร้านสเต็ก

สเต็กหมูพริกไทยดำ
สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้ เรามาคุยกันถึงเรื่อง การทำธุรกิจ ร้านสเต็ก กันดีกว่านะ เพราะ เราเห็นว่าธุรกิจประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นธุรกิจที่ทำกำไรให้ผู้ประกอบการมากพอสมควรเลยทีเดียว บางคนอาจจะบอกว่า ร้านสเต็กมันจะทำยากอะไรแค่มีเงินก็เปิดได้แล้ว ถูกต้อง ถ้าคุณมีเงินก็เปิดร้านสเต็กได้แล้ว แต่คุณจะเปิดได้นานแค่ไหน แล้วจะมีคนมากินที่ร้านคุณหรือเปล่า หรือต้องแล้วแต่โชควาสนา



- ดังนั้น วันนี้ เราจึงอยากจะนำประสบการณ์ที่เราเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้กับหลายๆ ที่ มาบอกให้คุณได้เปิดร้านสเต็กให้ยั่งยืน และมีชื่อเสียง การทำธุรกิจร้านสเต็กนั้น มันประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง


  • อย่างแรกคือ ทุน ความว่าทุนนี้ไม่ไช่หมายถึง เงิน เพียงอย่างเดียวนะ มันยังหมายรวมถึง ทุนจากพื้นที่ของตนเอง ทุนจากวัสดุในการทำและตกแต่งร้าน และทุนทางสังคม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการคิดจะเปิดร้านสเต็ก คือ ถ้าคุณมีเงินมากในการทำและตกแต่งร้านก็ดีนะ แต่คุณก็ควรมองข้าวของที่คุณมีอยู่ด้วย ว่าสิ่งของที่มีนั้นสามารถนำมาตกแต่งร้านได้ไหมเพื่อเป็นการลดต้นทุนในการทำ ร้าน แล้วพื้นที่ที่คุณจะทำร้านต้องเช่าไหม ถ้าเช่าก็เป็นต้นทุนเพิ่มมากขึ้นอีก(ไม่แนะนำให้เช่านะ)


อย่างต่อมาคือ คอนเซปของร้าน การทำร้านสเต็กต้องมีคอนเซปเป็นของตัวเอง เช่น คอนเซปในการตกแต่งร้าน เราต้องรู้ความต้องการของตลาดก่อนนะว่า เราจะแต่งร้านสไตล์ไหนให้น่าสนใจและเมื่อมองเข้ามาแล้วน่านั่งทานสเต็ก แล้วคอนเซปอีกอย่างหนึ่งคือ อาหาร ถึงแม้อาหารของร้านคุณคือ สเต็ก แต่สเต็กก็มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น สเต็กแบบอิตาลี สเต็กแบบแม็กซิกัน หรือสเต็กแบบเยอรมัน ทุกคอนเซปต้องเข้ากันอย่างลงตัว


  • อย่างสุดท้ายคือ ต้องมีความรู้เรื่องสเต็ก แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นเข้าโรงเรียนสอนทำอาหารก็ได้(แต่ถ้าไม่มีความรู้เลย ก็ควรไปเรียนเสียหน่อยก็ดีนะ) ความรู้ต่างๆ คุณสามารถหาได้จากหนังสือ และอินเตอร์เน็ต หรือการตระเวนชิ้มสเต็กร้านดังๆ แล้วหัดทำให้ชำนาญ พอทำเป็นแล้วก็แจกให้คนอื่นชิมบ้าง เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าสเต็กของคุณอร่อยหรือเปล่า


นี่คือปัจจัยหลักๆ แบบเข้าใจง่ายๆ ในการทำร้านสเต็กของ เราเมื่อ ทุกอย่างนำมาร่วมกันแล้ว ร้านสเต็กร้านนี้ของคุณมันจะโฆษณาตัวของมันเอง เพราะบรรยากาศที่ดี อาหารน่าตาสวยและอร่อย ทุกอย่างถ้ามันลงตัว ร้านของคุณก็จะดังได้โดยไม่ต้องไปจ้างโฆษณาแพงๆ



- การทำธุรกิจให้สำเร็จนั้น มันไม่เคยมีสูตรสำเร็จ มันจะมีก็เพียงแค่แนวทางในการทำธุรกิจเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็คือ สมอง สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจทุกประเภท เราจึงอยากให้เพื่อนๆ คิดและศึกษาก่อนที่จะทำธุรกิจใดๆ ลงไป เพราะบางครั้งการลงทุนครั้งนี้ อาจหมายความถึง การลงทุนครั้งสุดท้ายของคุณก็ได้

เนื้อส่วนไหน ทำสเต็ก


- มีอาชีพเสริมมาฝากเพื่อน ๆ ที่กำลังหารายได้เช่นเคย หลักจากที่เราเคยโพสเรื่อง  วิธีการทำสเต็ก ไป แล้ว แต่เพื่อน ๆ บ้างคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เราควรเลือกเนื้อส่วนใดมาทำสเต็กขาย เพราะถ้าเราอยากทำสเต็กให้อร่อย ต้องรูคุณสมบัติของเนื้อแต่ละส่วนก่อน แต่ละส่วนจะมีความเหนียว ความนุ่ม ไม่เท่ากัน ดังนั้น  เราจึงได้นำ "วิธีการเลือกเนื้อส่วนต่าง ๆ" สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากทำร้านขายสเต็ก

เพราะการทำร้านสเต็กเนื้อเป็นสิ่งสำคัญ และสูตรการทำของแต่ละร้านส่วนใหญ่จะคล้ายกัน สำหรับวันนี้เรา จะพูดถึงเรื่องการเลือกเนื้อในการทำสเต็กก่อน และครั้งต่อไป เราจะพูดถึงการทำธุรกิจร้านสเต็ก



ชนิดของเนื้อ (เนื้อวัว) ส่วนต่าง ๆ 

  • Chunk 
คือ เนื้อสันคอ เนื้อส่วนนี้จะค่อนข้างเหนียว เขาจึงนิยมนำไปทำ "แฮมเบอร์เกอร์" กัน  เพราะการทำแฮมเบอร์เกอร์ ต้องนำเนื้อส่วนนี้มาบดและหมักเครื่องเทศ ห่อมัดเป็นก้อนแท่งยาวแล้วแช่ตู้เย็น เพื่อให้เนื้ออยู่ตัว แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ จากนั้นค่อยนำมาทอดหรือย่างเป็นแฮมเบอร์เกอร์
  • Tenderloin 
คือ เนื้อสันใน เนื้อส่วนนี้จะนุ่ม เหมาะกับการนำมาทำเป็นสเต็กอย่างยิ่ง
  • Round 
คือ เนื้อสะโพก เนื้อส่วนนี้จะเหนียว เขานิยมนำไปทำสตูว์ และนำไปอบ
  • Shank 
คือ เนื้อน่อง  เนื้อส่วนนี้จะเหนียวมาก นิยมนำมาตุ๋น
  • Rib
คือ เนื้อซี่โครง  เนื้อส่วนนี้เหมาะมากสำหรับการทำบาบีคิว เพราะเนื้่อส่วนนี้เหมาะกับการย่าง
  • Sirloin
คือ เนื้อที่ติดกับกระดูกรูปตัว T หรือที่เขาเรียกว่า ทีโบน เนื้อส่วนนี้ก็เหมาะกับการทำสเต็ก เพราะเนื้อส่วนนี้จะมีความนุ่ม



- นี้เป็นคุณสมบัติของเนื้อทุกส่วน ถ้าคุณอยากขาย "สเต็ก" คุณต้องรู้ลักษณะของเนื้อแต่ละส่วน เพราะเนื้อแต่ละส่วนเหมาะกับการทำสเต็กแต่ละอย่าง อย่างเช่น ทีโบนสเต็ก ถ้าคุณนำเนื้อสันมาทำมันก็ไม่ใช่ ทีโบนสเต็ก เพราะเนื้อแต่ละส่วนมีเอกลักษณ์ของมัน ก่อนที่คุณจะทำร้านสเต็ก ก็ต้องศึกษาเรื่องนี้้ให้ดีนะ

การทำสูตรน้ำเกรวี่ราดสเต็ก


- มีเพื่อนๆ หลายคนของสูตรน้ำเกรวี่มา วันนี้เราจึงได้สรรหาสูตรน้ำเกรวี่ราดสเต็กมาฝากเพื่อนๆ กัน แน่นอนถ้าคุณเปิดร้านสเต็กสิ่งที่สำคัญและสามารถทำให้ร้านสเต็กของคุณแตก ต่างได้ก็คือ "น้ำเกรวี่" นี้แหละ   จะให้สูตรน้ำเกรวี่สัก 1 สูตรก่อนนะ ก็คือ สูตรน้ำเกรวี่ยอดนิยมอย่างเปเปอร์ซอส  มาลงมือทำกันเลย



น้ำเกรวี่เปเปอร์ซอส
ส่วนผสมน้ำเกรวี่เปเปอร์ซอส
  1. พริกไทยดำ 2 ช้อนโต๊ะ
  2. พริกไทยอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ
  3. หอมหัวใหญ่สับละเอียด  6 ช้อนโต๊ะ
  4. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  5. เนยออร์คิด  3 ช้อนโต๊ะ
  6. นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
  7. นมจืดคาร์เนชั่น 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำสต็อก 1 ถ้วย
  9. เกลือป่น 2 ช้อนชา

วิธีการทำน้ำเกรวี่เปเปอร์ซอส
  • เริ่มต้นเราก็เอาพริกไทยดำที่เป็นเม็ดๆ เนี๊ยะแหละ มาโขลกให้หยาบๆ ถ้าละเอียดมากเกินไปจะไม่ได้รสชาติของพริกไทย
  • ตั้งกระทะพอร้อนนำเนยออร์คิดใส่กระทะพอละลายนิดหน่อยก็ใส่หอม หัวใหญ่สับละเอียด ผัดไปสักครู่จนหอมหัวใหญ่ใสๆ แล้วค่อยใส่กระเทียมสับลงไป
  • ต่อไปเราก็นำส่วนผสม นมจืดคาร์เนชั่น นมข้นหวาน และใส่น้ำสต็อกลงไป
  • ขั้นสุดท้ายก็โรยเกลือป่นลงไปนิดหน่อยเป็นอันเสร็จ



- สูตรน้ำเกรวี่ที่  เราให้ไปนี้เป็นเพียงสูตรเริ่มต้น ถ้าเพื่อนๆ มีไอเดียในการแต่งเติมรสชาติให้อร่อย และแตกต่างกว่านี้่  เชื่อว่าร้านสเต็กของคุณสามารถเรียกลูกค้าได้อย่างแน่นอน ลองทำดูนะ

วิธีการทำ สเต็ก (Steak)



สเต็ก(Steak) เป็นอาหารชนิดหนึ่ง ที่คนไทยและต่างประเทศรู้จักกันดี วันนี้จึงนำเอา วิธีการทำสเต็กนุ่มๆ มาฝากเพื่อนๆ สูตรในการทำสเต็ก(Steak)

สูตรนี้ ได้มาจากร้านขายสเต็กข้างทางริมถนน เขาขายจานละ 59 บาท เสริฟพร้อมกับขนมปังปิ้ง 2 แผ่น ดูราคาแล้วไม่แพงเลย มีคนมาทานเยอะมาก แทบไม่มีโต๊ะว่าง เราจึงคิดว่าอาชีพนี้ ก็น่าจะเป็นอาชีพอิสระที่ดีได้ จึงนำมาฝากเพื่อนๆ เรามาดูกันว่าเราจะหมักเนื้อสเต็กกันอย่างไร


สเต็ก( Steak) มีทั้ง หมู, เนื้อ, ปลา, ไก่ สูตรนี้ก็เป็นสูตรที่สามารถ หมักได้กับเนื้อทุกอย่างเลย
ส่วนผสม

  1. เนื้อหมู 250 กรัม
  2. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  3. พริกไทยเม็ดบุให้แตก 10 เม็ด
  4. ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
  5. น้ำมัน 1 ช้อนกินข้าว
  6. โซดา 1 ช้อนกินข้าว
  7. หอมหัวใหญ่ 1 ชิ้นหั่นบางๆ

วิธีทำ
  • ให้นำเนื้อหมู มาขยำเบาๆ กับ โซดา แล้วหมักไว้ 5 นาที
  • หลังจากนั้นให้ใส่เครื่องปรุงทุกอย่าง ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • แล้วนำเนื้อหมูที่หมักแล้ว เข้าตู้เย็น ประมาณ 1/2 ชั่วโมง
  • เมื่อครบกำหนดแล้วให้ นำออกมาย่าง หรือทอดก็ได้แล้วแต่ชอบ
  • เวลาเสริฟ ให้ใส่ผักต้ม เช่น มันฝรั่งต้ม หรือแครอทต้ม หรือข้าวโพดหวานต้มก็ได้ และขนมปังปิ้งสองแผ่น

- เพื่อนๆ ลองทำทานกันดูนะ ถ้าได้ผลอย่างไรก็บอกกันบ้างแล้วกัน ก็ลองใช้สูตรนี้ลองทำดูแล้ว ก็ใช้ได้นะ เวลาย่าง อย่าใหมันสุขจนแห้งมากเกินไป มันจะไม่อร่อย ทานกับซอสมะเขือเทศ หรือซอสปรุงรส, เกลือ, พริกไทย อร่อยมาก แต่อย่าลืมอาหารแบบไทยๆ นะ อร่อยไม่แพ้ชาติอื่นเหมือนกัน

สูตร ราเมง Ramen

วันนี้จะแนะนำอาชีพขายอาหารญี่ปุ่น นั้นคือ "ราเมง" ปัจจุบันนี้อาหารญี่ปุ่นมีบทบาทในประเเทศไทยมาขึ้น เพราะรสชาติที่แปลกใหม่ เพราะสีสรรที่สวยของอาหาร และเพราะเป็นค่านิยม แต่จะเพราะสาเหตุอะไรก็ชั่ง ของให้เราทำเป็นอาชีพได้ และขายได้มีเงินใช้ ก็เป็นอันว่าดี (แต่อย่าลืมอาหารไทยนะ)


ราเมง ประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ

  • เส้นราเมง
  • น้ำซุป
  • ของแต่งหน้า (Topping)

เส้น
เส้น ราเมง มีส่วนประกอบหลักเพียงแค่ แป้งสาลี - น้ำ - เกลือ แต่ละร้านจะมีวิธีการผลิตเส้นที่ไม่เหมือนกัน บางร้านอาจจะใส่ไข่ลงไป บางร้านจะเพิ่มแป้งลงไปอีก 2 - 3 ชนิดเพื่อทำให้เส้นเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ส่วนใหญ่ร้านที่มีชื่อเสียงจะผลิตเส้นเอง เพื่อความเป็นต้นตำรับ

น้ำซุป
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด แต่ละร้านจะมีสูตรเฉพาะของตน แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้กระดูกสัตว์ หรือ ปลาแห้ง หรือสาหร่ายทะเลบ้าง อาจมีการต้มน้ำซุปรวมกับผัก และผลไม้บางอย่างก็ได้เพื่อให้เป็นรสชาติเฉพาะ ซุปของราเม็งสามารถแบ่งออกได้หลากหลายชนิด เช่น
  • ซุปโชยุ หรือซอสถั่วเหลืองของญี่ปุ่น ราเม็งเกือบทุกร้านจะมีโชยุเป็นส่วนผสม เป็นเครื่องปรุงที่นิยมมากชนิดหนึ่ง น้ำซุปที่ได้จะมีสีเข้ม ขณะที่รสชาติจะแตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของโชยุ

ซุปมิโซะ หรือถั่วหมัก ส่วนใหญ่เขาจะนำมาละลายกับน้ำซุป จะได้รสชาติที่เข้มข้นขึ้น ซุปที่ได้จะมีลักษณะค่อนข้างข้น สีเข้ม รสชาติของราเม็งก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของมิโซะที่ใช้

  • ซุปทงคัตสึ หรือซุปกระดูกหมู เป็นน้ำซุปที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูเป็นเวลานาน หรือบางร้านอาจผสมกระดูกไก่ลงไปด้วย วิธีการต้มซุปชนิดนี้ ให้ต้มกระดูกพอสีเปลี่ยน แล้วนำขึ้นมาล้างน้ำพร้อมกับขัดให้เนื้อที่เกาะอยู่ออกให้หมด แล้วทุบกระดูกให้แตก แล้วนำไปต้มใหม่ ปรุงรสตามชอบ เคี่ยวประมาณ 8 ชั่วโมง แล้วเก็บไว้อีก 1 คืน จะทำให้ได้น้ำซุปที่อร่อยมาก

- เครื่อง (Topping) เครื่อง ของราเม็งส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย เนื้อปรุงรส ผักชนิดต่างๆ หรืออาจมีการเพิ่มเครื่องต่างๆ ตามแต่สูตรของแต่ละร้าน แต่ที่เป็นที่นิยมกันมากๆ ก็คือ หมูย่าง

วิธีการทำหมูย่าง ที่ไว้ทานกับราเมง
ส่วนผสม (ปริมาณ แล้วแต่ชอบ)
  1. น้ำมันหอย
  2. น้ำตาล
  3. โชยุ
  4. ขิงอ่อนบดละเอียด
  5. ขึ้นฉ่าย
ให้นำทุกอย่างมาคลุกกับหมู แต่ต้องเป็นหมูติดมันมากๆ นะ เพราะจะทำให้ราเมงอร่อยมากชิม ออกให้ใด้ รส ออกหวานๆ แล้วเอาไปย่างไฟ อ่อนๆ อย่าใจร้อนนะ ค่อยๆย่าง และอย่าย่างจนแห้เกินไป เมื่อจะเสริฟ ก็หั่นให้เป็นชิ้นบางๆ
  • แต่บางร้านก็จะใส่ของชุบแป้งทอดลงไปด้วย เช่น กุ้งชุบแป้งทอด หรือผักต่างๆ ชุบแป้งทอด ลงไป เพื่อให้มีความกรุบกรอบ และลูกค้าจะได้ลิ้มรส รสชาติใหม่ๆ สุดท้ายอย่าลืมโรยหน้าด้วยต้นหอมนะ
มีสูตรทำน้ำซุปอีกหลายสูตร วันหน้า จะลงให้นะ ถ้ามีคนอยากได้ เพื่อนๆ รู้ไหมว่า น้ำซุปมีส่วนสำคัญมาก กับการทำอาหารให้อร่อย พวกพ่อครัวชั้นนำทั่วโลก เขาหวงกันมากที่สุด ก็สูตรการทำน้ำซุปนี่แหละ

เส้นราเมง

สูตรทำเส้นราเมง



-  การทำเส้นราเมงนั้น แต่ละร้านก็มักจะมีสูตรการทำเส้นราเมงเป็นของตัวเอง (และก็เป็นความลับเสียด้วย) มีเพื่อนๆ หลายคนหลังจากที่ได้ดูสูตรทำน้ำซุปราเมงไปแล้ว ก็อยากที่จะได้สูตรการทำเส้นราเมงด้วย workdeena  จึงได้ไปเสาะหาสูตรการทำเส้นราเมงมาฝากเพื่อนๆ กว่าที่จะได้สูตรการทำเส้นราเมงที่ทำได้จริงๆ เราต้องทดลองทำอยู่หลายครั้ง จนได้สูตรการทำเส้นราเมงสูตรนี้มา จริงๆ แล้วการทำเส้นราเมงเนี๊ยะต่อให้สูตรเดียวกันแต่คนทำคนละคน รสชาติเส้นราเมงก็แตกต่างกันไป เอาเป็นว่าเรามาดูวิธีทำเส้นราเมงกันเลยดีกว่า




เส้นราเมงแบบธรรมดา
ส่วนผสมเส้นราเมง
  1. แป้งสาลี 1 กิโล
  2. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำซุป 1 ถ้วย
  6. เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำเส้นราเมง
  • นำส่วนผสม แป้งสาลี แป้งมัน ไข่ไก น้ำมันพืช น้ำซุป เกลือ ผสมกัน
  • แล้วนวดทุกอย่างให้เข้ากัน ใช้เวลานวดประมาณ 40 นาที (บางคนอาจจะใช้มือนวด หรือเท้านวดก็ได้แล้วแต่ความถนัด)
  • เมื่อนวดเสร็จแล้วให้รีดเป็นแผ่น หั่นเป็นเส้นขนาดตามที่ต้องการ


เส้นราเมงแบบสาหร่าย
ส่วนผสมเส้นราเมงแบบสาหร่าย
  1. แป้งสาลี 1 กิโล
  2. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  3. สาหร่ายปรุงรสบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำซุป 1 ถ้วย
  7. เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำเส้นราเมง
  • นำส่วนผสม แป้งสาลี แป้งมัน ไข่ไก น้ำมันพืช น้ำซุป เกลือ สาหร่าย ผสมกัน
  • แล้วนวดทุกอย่างให้เข้ากัน ใช้เวลานวดประมาณ 40 นาที (บางคนอาจจะใช้มือนวด หรือเท้านวดก็ได้แล้วแต่ความถนัด)
  • เมื่อนวดเสร็จแล้วให้รีดเป็นแผ่น หั่นเป็นเส้นขนาดตามที่ต้องการ



- ว่าไปแล้วการทำเส้นราเมงก็คล้ายๆ กับเส้นบะหมี่บ้านเรานี้แหละ แต่แตกต่างกันตรงเวลาที่ใช้ในการนวดแป้งและความเหนียวของเส้น workdeena มีเคล็ดลับการทำเส้นราเมงอยู่นิดนึงก็คือ ตอนที่คุณนวดต้องนวดให้หนักมือนวดจนแป้งเนียน แล้วคุณถึงจะได้เส้นราเมงที่นุ่น น่ากิน การทำเส้นราเมงคือศิลปะ เส้นที่เหนียวนุ่มก็คือภาพศิลทีสวยงาม น้ำซุปคือศิลปะที่หอม หวาน นั้นแหละประกอบกันคือ "ราเมง"

Labels

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าทะเล (1) การทำธุรกิจ ร้านสเต็ก (1) การทำสูตรน้ำเกรวี่ราดสเต็ก (1) กุ้งทอดไข่ (1) แกงจืดไข่ 2 สี (1) แกงเลียงผักรวมกุ้งสด (1) แกงส้มชะอมชุบไข่ทอด (1) ไก่ผัดเหล้า (1) ข้าวคลุกกะปิ (1) ข้าวต้มกุ้ง (1) ข้าวผัดไข่ (1) ข้าวผัดทะเลใต้ (1) ข้าวผัดธัญพืช (1) ข้าวผัดน้ำพริกกุ้งสด (1) ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ (1) ข้าวผัดมันกุ้ง (1) ข้าวผัดสับปะรด (1) ข้าวผัดหมู (1) ข้าวผัดหมูแดง (1) ข้าวมันไก่ (1) ข้าวหมกไก่ (1) ไข่กระทะ (1) ไข่เจียว (1) ไข่เจียวกุ้งสับ (1) ไข่ตุ๋นต้มยำหม้อไฟซาร์ดีนกับข้าวผัดหมูแดง (1) ไข่ตุ๋นนมสด (1) ไข่ตุ๋นในพริกหวาน (1) ไข่น้ำ (1) ไข่ยัดไส้ทูน่าปรุงรสผัดพริก (1) ไข่เยี่ยวม้าผัดกะเพรากรอบ (1) เจ (1) ใจผักผัดปลิงทะเลน้ำแดง (1) ซกเล็ก (1) ซี่โครงหมูสามรส (1) ตับผักกาดดองซีโครงหมูแบบญวน (1) ทอดมันกุ้ง (1) ทอดมันหมู (1) น้ำจิ้มปลาม้วน (1) น้ำพริกปลาทูน่า (1) เนื้อผัดน้ำมันหอย (1) เนื้อส่วนไหน ทำสเต็ก (1) แบบกุ้งเต็ม ๆ คำ (1) ปลากะพงน้ำแดง (1) ปลาช่อนย่างแซบ (1) ปลาทอง (1) ปลาทอดราดข้าวโพดผัดน้ำมันหอย (1) ปลาทูทอดแป้ง (1) เปาะเปี๊ยะทอด (1) ผักกูดผัดน้ำมันมะกอก (1) ผัดเมล็ดถั่วลันเตากับหอยเชลล์ (1) มะเขือเทศสอดไส้ข้าวปรุงรส (1) มะระขี้นกผัดไข่เค็มกระเทียมโทนดอง (1) ยำ (13) ยำกุนเชียง (1) ยำไก่ย่าง (1) ยำไข่ดาวเบคอน (1) ยำไข่ต้มอย่างไทย (1) ยำถั่วพู (1) ยำทูน่าฟู (1) ยำวุ้นเส้นไส้กรอก (1) ยำหมูยอ (1) ยำเห็ดหูหนูขาว (1) ยำแอ๊ปเปิ้ลไข่ต้ม (1) รวมทะเลจานร้อน (1) รวมเห็ดน้ำแดงเจ (1) โรซ่าผัดหนวดมังกร (1) ลินกวีนีผัดไทยไข่ห่อ (1) ลูกชิ้นเผือกสอดไส้ไข่เค็ม (1) วิธีการทำ สเต็ก (Steak) (1) ไวไวผัดฉ่าทะเลแห้ง (1) ส้มตำ (1) สูตร ราเมง (1) เส้นราเมง (1) หมูน้ำตก (1) หมูมะนาว (1) หมูสะระแหน่ (1) หมูสับปะรด (1) หลนเต้าเจี้ยว (1) หลนเนื้อเค็ม (1) หลนปูเค็ม (1) หอยเชลล์ผัดผักโสภณ (1) หอยนางรมทอดกระเทียมพริกไทย (1) หอยแมลงภู่ผัดฉ่า (1) หอยลายผัดพริกแกง (1) แหนมผัดไข่ (1) อาชีพเกี่ยวกับอาหาร (1) อาชีพอิสระ (4) อาชีพอิสระ เกี่ยวกับอาหาร (1) อาหารที่ควรมีไว้ติดตู้เย็น (1) เอล อินเฟอร์โน (1) ฮาวายเอี้ยนพอร์คชอพ (1) แฮมผัดขึ้นฉ่าย (1) FRIED RICE WITH ROAST PORK FLAVOR (1) Ramen (1)

Followers